วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

PHP

ช่วงนี้จะหาระบบอะไรก็ได้มาทดสอบกับเพื่อ ทำ BI เลยหาระบบแปลกๆ ใหม่ๆ มาทดลองดู แต่เนื่องจากระบบส่วนใหญ่นั้น พื้นฐานจะต้องทำงานบน PHP หมด เลยต้องทำงานทดสอบ เล่น XAMPP หน่อย ซึ่งเป็นชุด Mysql Php และระบบอื่นๆ มาใช้ง่ายๆ วางเสร็จก็ใช่ได้เลย

สิ่งที่สำคัญในการพัฒนา Application หรือ Webapplication ที่ส่วนใหญ่เป็น Open source ซึ่งพวสำคัญการทำงานคือพวก PHP ที่เป็น ภาษาโปรแกรมเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นเว็บ App โดยใช้ Appserver และต้องตามมาด้วย Database ส่วนใหญ่จะมาเป้นชุดเช่นพวก PHP MySQL โดยหลังๆ ก็มีคนนำพวกนี้มารวมกันเป้น Set เช่น

http://www.appservnetwork.com ลงทุกอย่างมาไว้ Set สะดวกดี
อีกตัวก็คือ XAMPP http://www.apachefriends.org/en/xampp.html ซึ่งบางคนบอก มันเล็กสะดวกหิ้วไปใน Flashdrive ได้ ง่ายๆ ไม่ยาก

ส่วนบางคนที่ มืออาชีพหน่อย ก็อาจลงแยกที่ละตัว ไม่ว่า จะเป้น Mysql , Apache ก้แล้วแต่คนจะชอบนะครับ

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Datawarehouse กับ BusinessIntelligence

มาวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Datawarehouse กับ BusinessIntelligence อย่างเป็นหลักการคร่าวๆ นะครับ


ก่อนหน้าบทความนี้ผมได้ศึกษาเรื่อง BusinessIntelligence จะไม่ได้บอกถึงเรื่องการทำงานทางเทคโนโลยีเท่าไรนัก โดยผมมุ่งเป้าไปที่ตัว Application ของ BI มากกกว่า แต่มาทำงานจริง จะเป็นเรื่อง ETL จาก Datawarehouse เอาประมาณ 40 % ก่อนเลย ดังนั้นเรามาดูกันว่าทำไมผมต้องเรือง Datawarehouse กับ BusinessIntelligence

จากที่เรารู้กันว่าการใช้ระบบ Business Intelligence นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการทำตัดสินใจธุรกิจหรืองานชนิดอื่นๆ โดยต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาสหรือหลากหลายแหล่งเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ

แต่ข้อมูลจำนวนมหาศาสหรือหลากหลายแหล่งนั้น เป็นสิ่งที่ในทางปฎิบัตินั้นเป็นไปได้ยากมาก การทำจะนำข้อมูลทุกระบบมาใช้ไม่ว่าจากภายในตัวองค์กรและยิ่งนำข้อมูลจากนอกระบบมาใช้อีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เพราะมันจะมีปัญหาเรื่องการนำข้อมูลที่แตกต่างกันมาใช้ เช่น

ข้อมูลลูกค้าจากระบบอาจมา Datatype ที่แตกต่างกัน

ระบบ A ชือ นามสกุล mm/dd/yy
ระบบ B ชือ นามสกุล ชื่อเล่น dd/mm/yyyy
ระบบ C ชือ ชื่อกลาง นามสกุล yyyy/mm/dd


เป็นต้นนะครับ ถึงเวลาจริงๆ มันไม่ได้แค่ข้อมูลแบบนี้เท่านั้น ข้อมูลสารพัด ถ้าระบบมันเป้นมาตรฐานเดียวก็ดี แต่ความเป็นจริงยังไม่ค่อยมีหรอกครับ


มันถึงต้องมีการทำ Cleaning Data ข้อมูลจากระบบทุกระบบก่อน เพื่อทำให้ข้อมูลเป็นรูปแบบเดียวกันก่อน แล้วจึงทำนำข้อมูลที่เป็นที่มีรูปแบบเดียวกันแล้วมาใช้ทำการวิเคราะห์ตามแบบของ BusinessIntelligence ได้
และนี้คือหลักการและความสัมพันธ์เบื้องต้นของ Datawarehouse กับ BusinessIntelligence ซึ่งต่อไปผมคงได้บอกถึงรายละเอียดเยอะขึ้นอีก

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Total cost of ownership (TCO) ต้นทุนการเป้นเจ้าของ

ต้นทุนเป็นเรื่องการบริหารอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบ IT ขององค์กรต้องพิจารณา เมื่อเรามีระบบหรือเทคโนโลยีจึ้นมาใหม่ก็ได้ระบบหรือเทคโนโลยีที่เราต้องดูแล โดยต้องเสียต้นทุนในการดูแล ต้นทุนนั้นคือ ต้นทุนการเป้นเจ้าของ Total cost of ownership โดยเรียกสั้นๆ ว่า TCO

การที่เรามีคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างน้อยเราต้องคำนึงถึงดูแลรักษาเมื่อมีปัญหาในการดำเนินการ ไม่ว่าจะจาก ไวรัส การโจมตี หรือแม้แต่จากบุคคลเอง โดยใช้คนดูแล หรือซื้ออุปกรณ์ Hardware Sotfware ในการบำรุงรักษา ทำให้ต้องเสียทรัพยากรในการดูแลระบบเหล่านี้

โดยทางWiki ได้ให้ความหมาย Total cost of ownership ไว้ดังนี้
Total cost of ownership เป็นการประมาณการทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยการผู้บริหารองค์กรได้ทราบถึงต้นทุนทางตรงและทางอ้อมของระบบหรือสินค้านั้นๆ โดยเป็นแนวคิดของการบริหารบัญชีซึ่งให้บัญชีต้นทุนและใช้เศรษฐศาสตร์มารวมในเรื่องต้นทุนทางสังคม

"Total cost of ownership (TCO) is a financial estimate. Its purpose is to help consumers and enterprise managers determine direct and indirect costs of a product or system. It is a management accounting concept that can be used in full cost accounting or even Ecological economics where it includes social costs." http://en.wikipedia.org/wiki/Total_cost_of_ownership

TCO ก็นับเป็นอีกเรื่องที่ทางศูนย์คอมตามหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจ และก็มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Total cost of ownership กับทางเทคโนโลยีขององค์กรนะครับ

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประโยชน์ของ Business Intelligence

คราวเรามาดูประโยชน์ของการทำ Business intelligence กันบ้างนะครับ โดยได้มีคนเสนอประโยชน์ไว้หลายมิติเหมือนกัน จากแหล่งข้อมูลหลายๆที่


Larissa TและAtre ได้กล่าวถึงเรื่องประโยชน์ของ Business Intelligence ไว้ในหนังสือ
"Business Intelligence Roadmap: The Complete Project Lifecycle for Decision-Support Applications" ว่ามี 5 ข้อต่อการดำเนินธุรกิจคือ


Revenue increase เพิ่มรายได้จาก

  1. ตลาดใหม่หรือความแตกต่างในตลาดเดิม,

  2. เพิ่มประสิทธิผลจากขาย

  3. เห็นโอกาสใหม่ได้เร็วขึ้น

  4. เข้าตลาดในเวลาที่เหมาะสม

Profit increase กำไรเพิ่มจาก


  1. การทำโปรโมชั่นหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ดีขึ้น

  2. เตือนการถดถอยของตลาดได้เร็วขึ้น

  3. ระบุการทำงานที่ต่ำกว่าประสิทธิได้

  4. บอกถึงการทำงานภายในที่ไม่มีประสิทธิภาพ

  5. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร

Customer satisfaction improvement ปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า


  1. สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น

  2. จับคู่ลูกค้าให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ได้

  3. ทำ ซื้อต่อยอด(Up-selling) ได้

  4. เพิ่มการขายซ้ำให้ธุรกิจ

  5. สามารถปรับปรุงให้พึ่งพอใจของลูกค้าได้เร็วขึ้น

Savings increase ประหยัดได้มากขึ้น

  1. ลดการผลิตที่สิ้นเปลือง

  2. ลดการทำรายงาน


Market share gain ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น




ประโยชน์ของที่ช่วยทำธุรกิจคือ อันนี้จากเว็บ search data management ได้พูดถึงข้อดีของ Business intelligecnc ไว้ดังนี้

Collaboration between IT and business is essential. ทำการรวมระหว่างธุรกิจกับ IT

Don't get hung up on hard metrics. ทำการวัดทำได้ง่าย พวก BSC

ROI calculations are difficult -- and not always necessary. หา ROI ได้ชัดเจน

The "soft" benefits of BI are the most important. ได้ประโยชน์ทางอ้อมต่อธุรกิจซึ่งสำคัญมาก

Executive sponsorship really helps. เป็นผู้ช่วยการบริหาร

http://searchdatamanagement.techtarget.com/news/article/0,289142,sid91_gci1245954,00.html

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทดลองเล่น BusinessObjects ( Free Trial BusinessObjects )

BO หรือ BusinessObjects เป็น ระบบซอฟแวร์ที่เป็น BI หรือ BusinessIntelligence ตัวต้นๆ ของตลาด ตัวหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้โดน SAP บริษัท ERP เทคโอเวอร์ หรือกลายเป้นเจ้าของไปแล้ว โดยได้มีการปล่อยตัวทดลอง Free Trial BusinessObjects มาให้ได้ลองใช้กัน


http://www.sap.com/solutions/sapbusinessobjects/index.epx
โดยเข้าไปตาม link ได้เลย และเลือก Free Trial จากนั้นก็กรอกรายละเอียดต่างๆ และ โหลดมาทดลองดูได้นะครับ



ตอนลงทะเบียนก็กรอก Email ให้เรียบร้อย เพราะเลข Key จะส่งมาทางอีเมล์นะครับ

ส่วนวิธีการลงผมได้เขียนไว้ที่นี้นะครับ

http://gkengapplication.blogspot.com/2009/12/sap-businessobjects-edge-solutions.html

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

BI: Business Intelligence

Business Intelligence หรือ BI ในการเรียกติดปากหลายๆคน นั้นเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้เพื่อทำการช่วยตัดสินใจในการทำธุรกิจ โดยมีคนให้ความเห็นเกี่ยวกับ BI Business Intelligence ไว้ดังนี้

"Business intelligence is a way of exploring data to improve business performance, whether to drive profitability or to manage costs.........the users discover new opportunities to leverage
information, and technology changes."(Howson,2006,3)

ซึ่ง Howson ได้บอกว่าเป็น Business Intelligence เป็นตัวใช้สำรวจข้อมูลเพื่อนำมาทำให้ประสิทธิภาพของการทำธุรกิจดีขึ้น โดยทำให้ต้นทุนการบริหารลดเพื่อนให้ได้กำไรเพิ่ม โดยการใช้ Business intelligence นั้นเพื่อค้นหาโอกาสที่ใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์

"Business intelligence may be defined as a set of mathematical models and analysis methodologies that exploit the available data to generate information and knowledge useful for complex decision-making processes." (Vercellis,2009,3)

โดย Vercellis ได้บอกความหมายของ Business intelligence ได้เห็นถึงการทำงานระบบ Business intelligence โดยกล่าวว่า เป็นกลุ่มของแบบจำลองทางคณิตศาสตร์และวิธีการวิเคราะห์ซึ่งค้นหาความเป็นไปได้ของข้อมูลเพื่อที่จะนำมาเป้น สารนิเทศและความรู้ที่ใช้ในการตัดสินใจที่ยากได้



จากความเห็นเกี่ยวกันความหมายของ Business intelligence ที่ผมยกมาเห็นได้ว่าโดยส่วนใหญ่ ใช้ BI เพื่อการตัดสินใจเพื่อเพิ่มประสิทธภาพการทำธุรกิจ และหาโอกาสใหม่ๆ โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ช่วย

โดยวัถตุประสงค์ของการใช้ BI มีดังนี้ (Dr. Saadia Asif)

Converting Data Into Information เปลี่ยนข้อมูลดิบมาเป้นข้อมูลที่สามารถใช้งานได้
Making Better Decisions Faster ทำให้การตัดสินใจเร็วขึ้น
Rational Approach to Management ทำให้มีเหตุผลในการบริหาร


โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีประเภท OLAP, analytics, data mining, business performance management, benchmarking, text mining, และ predictive analytics (http://en.wikipedia.org/wiki/Business_intelligence) ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีก็จัดเป็นหัวข้อทางเทคโนโลยีที่น่าสนใจด้วยกันทั้งนั้น และยังมีส่วนอื่นๆ อีก ไว้โอกาสต่อไปเมื่อผมหาความรู้มาแล้วจะมาเขียนให้อ่านต่อนะครับ