วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธุรกิจนำIT หรือ ITนำธุรกิจ (2)

คนหลายคนอาจสงสัยคำถามนี้บ้าง

ส่วนใหญ่พวกที่จบมาจากสายตรงแนว IT มักจะมองว่า IT แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ถ้ามีมุมมองแบบนี้อย่างเดียวรับรอง ใช้ชีวิตลำบากในบริษัททั่วไป

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ เราต้องตอบคำถามให้ได้ก่อน ว่า เรากำลังทำอะไร พอเราตอบคำถามนี้ได้แล้ว จึงค่อยหาสิ่งที่เหมาะสมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การนำ IT มาใช้ อย่าคิดว่ามันง่ายขึ้น ดีขึ้น ระบบบางอย่างนำมาใช้แล้ว มีปัญหากับคนกรอกข้อมูล คนใช้ระบบที่เรานำมาใช้ เค้าไม่ได้เป็น IT ระดับเราทุกคนหรอกครับ กรณีศึกษาหลายๆ กรณี ก็จะบอกปัญหาเรือ่งการใช้ IT ในองค์กร ถ้ามันใหม่เกิดไป ยากเกินไป รับรอง เงินที่ลงทุนไปสูญปล่าวแน่นอนครับ แถมคนทำอาจโดนตราหน้าด้วย

อีกอย่าง IT มันแพงมากครับ

บริษัทแห่งหนึ่ง ซื้อ License MSOffice มาใช้่แล้ว ทำการฝึกอบรมพนักงานไรไปซัก 3เดือน ก็เลิก License เพื่อมาใช้ Openoffice แทน เพราะอะไรครับ

MSOffice ดีกว่าทุกอย่าง แถมคุ้นตากว่า Openoffice อีก

ข้อเสียอย่างเดียวคือ มันเสียเงินมากกว่า Open office นี้เป็นอีกตัวอย่างที่นโยบายนั้นเน้นประหยัด แม้คนทำอาจชอบ MSOffice มากกว่าก็ตาม

อันนี้แค่ โปรแกรมออฟฟิตนะครับ ถ้าระบบองค์กรละก็ ต่ำๆ ต้องมี 100 ล้านมาตั้ง ถึงจะติดตั้ง Implement ระบบได้

อย่าง SAP ผมเคยได้ยินคนบอกว่า ถ้า ยอดขายไม่เกิน 100 ล้าน อย่าใช้เลย ไม่คุ้มแน่นอน

แต่ถ้าธุรกิจใช้ระบบพวกนี้ได้ตรงที่ต้องการ มันจะทำประโยชน์ให้กับบริษัทได้อย่างมหาศาสแน่นอนครับ

เพราะฉนั้น การจะนำ ไอที มาใช้ กับธุรกิจ เราต้องตอบให้ได้ก่อนว่า

ธุรกิจเราทำอะไร แล้ว IT สนับสนุนธุรกิจเราอย่างไร

ถ้าเราทำพวก ผู้ผลิต ก็ ให้ พวกระบบโรงงานมาเป็น IT หลักที่เราต้องทุ่มงบลงไป

ถ้าเราเป็นสินค้าการแข่งขันสูง เน้นพวกลดต้นทุน ก็ไปเน้นพวก SCM

ถ้าเราเป็นสินค้าบริการ เน้นพวก CRM เพื่อมัดใจลูกค้าให้เกิดความภักดี

แต่กรณีที่คิดว่าธุรกิจเราทำพวก IT เทคโนโลยีเป็นหลัก ธุรกิจอย่างนี้ละครับ ที่ต้องให้ IT นำ เช่น พวกบริิษัทเขียนโปรแกรมเป็นต้น เทคโนโลยีอะไรมา เราก็ต้องพัฒนาให้ทัน

ส่วนพวกที่ต้องนำ IT เช่น MicroSoft,Google,Apple พวกนี้เป็นผู้นำในตลาดอยู่แ้ล้วมีหน้าที่่อย่างเดียว คือต้องนำให้ตลอด สิ่งที่ต้องทำคือ คิด นวตกรรม อยู่ตลอดเวลา

อย่างเช่น iPhone ตอนออกใหม่ๆ นับว่าเป็นสุดยอดนวตกรรม การจับ การสไลด์และอื่นๆ แต่ผ่านไป มือถือ เกือบทุกยี้ห้อ ทำได้หมดแล้ว แต่อย่างน้อย ก็ทำให้ Apple ได้กำไรไปอย่างมหาศาล ในช่วงแรกๆ

จากกรณีของ iPhone ทำให้เห็นได้ว่า นวตกรรมที่ดีในอดีต เป็น มาตรฐานให้ปัจจุบัน อาจารย์สอน KM ผม บอกว่า สิ่งที่ได้เปรียบในปัจจุบัน อาจไม่ใช่ความได้เปรียบในอนาคต การแข่งขันในโลกสิ่งเดียวที่ต้องทำคือทำอย่างไรให้ได้เปรียบในการแข่งขันมากที่สุด

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

F1 คู่มือของทุกโปรแกรม

ปกติการทำ ระบบ หรือ โปรแกรม นั้นปัญหาที่เจอส่วนใหญ่คือ เราไม่ใช้โปรแกรมนั้นไม่เป็น หรือไม่เข้าใจ ส่วนใหญ่ ถ้าเราไม่เคยใช้โปรแกรมนั้นมาก่อน

ในกรณ๊อย่างนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ มั่ว ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะทราบว่า โปรแกรมหรือระบบนั้นใช้งานอย่างไร

แต่ความจริงมีวิธีง่ายกว่านั้น คือ เราต้องอ่าน Help โปรแกรมที่ดี นั้นส่วนใหญ่ Help จะมี Tutorial ให้ด้วย

ซึ่งส่วน ทุำกโปรแกรม กด F1 เหมือนกันหมด อยากให้ทุกคน ที่ไม่รู้ว่าอะไร ใช้อย่างไรในโปรแกรม ไม่ยากให้มั่วกันมานะครับ

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ข้อได้เปรียบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ Competitive advantage from IT

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ถ้าใช้ให้ถูกต้องจะสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับการแข่งขันในธุรกิจได้อย่างมากมาย ซึ่ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นให้ความได้เปรียบดังนี้

1. ลดต้นทุน
การมีระบบจัดการที่ดีและระบบแจ้งข้อมูลต่างๆให้ได้อย่างละเอียดนั้น ทำให้เราสามารถทราบข้อมูลในการทำธุรกิจได้จริงอยู่ตลอดเวลา ย่อมทำให้ความสิ้นเปลืองต้นทุน เวลา นั้นลดลง

ระบบที่ใช้ให้งานแบบนี้ได้แก่ ERP, SCM เป็นต้น

2.สร้างนวตกรรมหรือความแตกต่างให้กับสินค้า
การที่สินค้าและบริการที่อยู่ในตลาดนั้นสามารถแข่งขันก็สินค้าบริการรายอื่นๆได้นั้น ความแตกต่างเป็นประเด็นสำคัญ ที่สามารถช่วยให้สินค้าบริการอยู่เหนือกว่าคู่แข่งได้

ระบบที่ใช้ให้งานแบบนี้ได้แก่ Datamining, KM, BI เป็นต้น

3.ใช้สร้างความเติบโต
การขยายบริษัทให้เป็นสากล กระจายไปได้ในทั่วโลกโดยใช้ระบบ IT ที่เป็นระบบเดียวจัดการได้ทั่วโลก

ระบบที่ใช้ให้งานแบบนี้ได้แก่ ERP เป็นต้น

4.บังคับของคู่ค้าและลูกค้า สร้างต้นทุนในการเปลี่ยนการค้าขาย
เป็นการทำให้เกิดต้นทุนในการเปลี่ยนเทคโนโลยี Switching costs เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงคู่ค้านั้น อาจต้องลงทุนเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเติมซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่สูง

ระบบที่ใช้ให้งานแบบนี้ได้แก่ SCM,XML,EDI,SOA เป็นต้น

5.สร้างกำแพงของคู่แข่งรายใหม่
การลงทุนจำนวนมากทำให้คู่แข่งรายใหม่ต้องมีปัญหาในการลงทุนด้วย ซึ่งถือเป็นข้อกีดกันไม่ให้มีคู่แข่งรายใหม่อีกหนึ่งประเด็น ทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธุรกิจนำIT หรือ ITนำธุรกิจ

ในปัจจุบัน การนำ IT มาใช้กับงานต่างๆ อุตสาหกรรมต่างๆ นั้น เห็นได้อยู่ทั่วไปเพราะ IT นั้นช่วยให้งานต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น

ซึ่ง IT ส่วนใหญ่นั้น พัฒนามาจากแนวความคิดจากทางธุรกิจต่างๆ แล้วนำมาประยุกต์สร้างเป้น Appreciation program นั้นเอง

โดยส่วนใหญ่องค์กรที่ต้องใช้งานแบบพื้นฐาน ได้แก่ โปรแกรม พวกจัดการเอกสาร พวกจัดการงานทั่วไป เป็นต้น โดยพวกยอดนิยม ที่ต้องมี ทุกเครื่องได้แก่

แนวเสียค่า License ได้แก่
- Windows OS
- MS Office


แนว open source ได้แก่
- Linux OS
- Open office

ส่วนระบบอื่นๆ ที่เข้ามาช่วยงา่น เช่น บัญชี จัดซื้อ HR หรือระบบองค์กรใหญ่ ERP MRP SCM CRM BI KMs เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ระบบพวกนี้พัฒนามาจากแนวคิดของฝั่งธุรกิจโดยนำ IT มาสร้างระบบให้ได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งก็มีทั้งถูกแพงและฟรีเหมือนกัน

บางครั้ง คนอาจสงสัยว่า IT นำ Business หรือ Business นำ IT เป็นสิ่งที่ต้องคิดในการลงทุนด้าน IT

ขออนุญาติเขียนในบทความต่อไปนะครับ

Freemind for mindmap เครื่องมือโปรแกรมทำแผนที่ความคิด

การทำ Mindmap ที่แปลเป็นไทยได้ว่า ผังมโนภาพ หรือ แผนที่ความคิด เป็นภาพที่ใช้เพื่อแสดงความคิดหรือองค์ประกอบต่างๆ ใช้งานได้หลายแบบ ผมเคยมีอาจารย์มาถามว่าจะสอนไรบ้าง อาจารย์แกก็เอาทุกอย่างมาไว้ใน Mind map ให้ทุกคนระดมความคิดกัน ก็เป็นการใช้ประโยชน์จาก Mindmap อย่างหนึ่ง

ซึ่งความหมายอื่นๆ ที่มีคนให้นิยามก็จาก wiki
"รูปจำลองที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่องโยงของมโนภาพที่สัมพันธ์กัน โดยปกติจะใช้รูปวงกลมแทนมโนภาพหรือความคิด และเส้นลูกศรแทนลักษณะและทิศทางของความสัมพันธ์นั้น มีคำกำกับไว้ว่าวงกลมแทนมโนภาพของอะไร เส้นลูกศรแทนความสัมพันธ์ในลักษณะและทิศทางใด ในบางครั้งมีการใช้การเน้นและแจกแจงเนื้อความด้วยสีและการวาดรูปประกอบ"

โปรแกรม Freemind เป็นโปรแกรมที่ช่วยทำ Mindmap ที่สำคัญยังเป็น Opensource และไม่ต้องการความต้องการประสิทธิเครื่องมากที่ไร และใช้งานได้หลาย Platform os ด้วย

http://freemind.sourceforge.net/wiki/index.php/Main_Page

Mindmsp เป็นเครื่องมือรับรองใช้งานได้หลายประเภท เหมาะการทำงาน การเรียนแน่นอน ผู้ที่สนใจขอให้ลองใช้ลองศึกษาดูนะครับ